Photo credit :
เกี่ยวกับมาร์ค บริดจ์ นักเตะผู้ทำประตูสูงสุดในประวัติศาสตร์ให้กับทีมเวสเทิร์น ซิดนีย์ วอนเดอร์เรอร์ส ด้วยจำนวน 32 ประตู ในขณะนี้ ที่กำลังจะเป็น(ว่าที่)หอกใหม่ทัพกว่างโซ้งมหาภัย จากเราได้เลย
ก่อนจะเข้าสู่วงการลูกหนังระดับอาชีพครั้งแรกกับทีม Parramatta Power ในศึกแนชั่นแนล ลีก ออสเตรเลีย ช่วงระหว่างปี 2003-2004
4. ก้าวขึ้นมาเล่นในศึกเอลีก ออสเตรเลียครั้งแรก ขณะที่มีอายุได้เพียง 20 ปีกับทีมนิวคาสเซิ่ล เจตส์ ในปี 2005
5. ฝากผลงานตลอด 3 ฤดูกาลในช่วงระหว่างปี 2005 ถึงวันที่ 1 มีนาคม 2008 ที่ลงเล่นให้กับนิวคาสเซิ่ล เจตส์ ด้วยการพาทีมคว้าแชมป์เอลีก 1 สมัย (2007-2008) และคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาล 2006-2007 จากผลงานลงสนามรวมทุกรายการไป 56 นัด ทำได้ 18 ประตู
6. โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูกาล 2007-2008 ที่คว้าแชมป์เอลีกร่วมกับทีม เจ้าตัวเป็นคนซัดประตูชัยในรอบแกรนด์ ไฟนอล เหนือเซนทรัล โคสต์ มาริเนอร์ส 1-0 ในนาทีที่ 64
ทำประตูชัยพาทีมชนะเซนทรัล โคสต์ มาริเนอร์ส 1-0
7. หลังหมดสัญญากับนิวคาสเซิ่ล เจตส์ เจ้าตัวเลือกย้ายไปทีมซิดนีย์ เอฟซี คู่ปรับร่วมลีก ช่วงเดือนมีนาคม ปี 2008 ก่อนจะอยู่ร่วมกับทีมชุดคว้าแชมป์เอลีกฤดูกาล 2009-2010 พร้อมอยู่รับใช้ต้นสังกัดนานถึง 4 ฤดูกาล (2008-2009, 2009-2010, 2010-2011, 2011-2012) โดยมีสถิติการลงสนามทั้งสิ้น 88 นัด ทำไป 19 ประตู รวมทุกรายการ
8. วันที่ 11 กุมภาพันธ์ ปี 2009 ย้ายไปค้าแข้งต่างแดนครั้งแรกกับเทียนจิน ไท่ต๋า ด้วยสัญญาระยะสั้น 4 เดือน และล้มเหลวในการพาทีมตกรอบแบ่งกลุ่มศึกเอซีแอล 2009 ก่อนจะหมดสัญญาและกลับซิดนีย์ช่วงเดือนพฤษภาคม
9. ถูกซิดนีย์ เอฟซียกเลิกสัญญาเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ปี 2012 และเลือกย้ายซบทีมบ้านเกิดอย่างเวสเทิร์น ซิดนีย์ วอนเดอร์เรอร์ส ในเดือนกรกฎาคม ปี 2012 ก่อนจะประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์ ACL ปี 2014 ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร พร้อมเกียรติยศส่วนตัวกับรางวัลGoden Boot และรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล 2012-2013 รวมถึงติดทีม เอลีก ออลสตาร์ในปี 2013 อีกด้วย
คว้าแชมป์เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีกร่วมกับทีม ในปี 2014
10. เคยมีชื่อติดทีมชาติออสเตรเลียชุด ยู-21, ยู-23 รวมถึงทีมชาติชุดใหญ่มาแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น